สำหรับผู้ที่กำลังค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ ประวัติกระดาษคราฟท์ หรือสงสัยว่า กระดาษคราฟท์มาจากไหน บทความนี้จะพาคุณย้อนรอยไปทำความรู้จักกับ ต้นกำเนิดกระดาษคราฟท์ และ วิธีการทํากระดาษคราฟท์ ในช่วงค้นพบ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและแข็งแรงอย่างที่เราใช้กันในปัจจุบัน
กระดาษคราฟท์ ไม่ได้เกิดขึ้นมาโดยบังเอิญ แต่ถือกำเนิดขึ้นจากการค้นพบครั้งสำคัญของนักเคมีชาวเยอรมันชื่อ Carl F. Dahl ในปี ค.ศ. 1879 เขาได้พัฒนา กระบวนการผลิตเยื่อกระดาษ รูปแบบใหม่ที่เรียกว่า "กระบวนการคราฟท์" (Kraft Process) ซึ่งเป็นหัวใจหลักในการสร้างสรรค์กระดาษที่มี คุณสมบัติเด่นเรื่องความแข็งแรงและความทนทาน
คำว่า "คราฟท์" เองก็มาจากภาษาเยอรมันที่แปลว่า "ความแข็งแรง" หรือ "กำลัง" ซึ่งสื่อถึงเอกลักษณ์เฉพาะตัวของกระดาษชนิดนี้ได้เป็นอย่างดี กระบวนการคราฟท์ทำให้ได้เยื่อกระดาษที่มีคุณภาพสูง แข็งแรง และเหมาะสมกับการใช้งานหลากหลายรูปแบบ
ในยุคแรกเริ่มของการค้นพบ กระบวนการคราฟท์ มุ่งเน้นการแยกเส้นใยเซลลูโลสออกจากลิกนิน (Lignin) ซึ่งเป็นสารยึดเกาะในเนื้อไม้ โดยไม่ทำลายโครงสร้างของเส้นใย ทำให้เยื่อกระดาษที่ได้ยังคงความยาวและแข็งแรงไว้ได้ดีเยี่ยม ขั้นตอนสำคัญมีดังนี้:
การเตรียมวัตถุดิบ (ไม้):
เริ่มต้นด้วยการนำ ไม้เนื้อแข็ง หรือ ไม้เนื้ออ่อน เช่น ไม้สน หรือไม้ยูคาลิปตัส มาสับให้เป็นชิ้นเล็กๆ ที่เรียกว่า Wood Chips เพื่อให้ง่ายต่อการนำเข้าสู่กระบวนการผลิต
การย่อยเยื่อไม้ด้วยสารเคมี (Pulping):
ชิ้นไม้จะถูกนำไปต้มในหม้อต้มขนาดใหญ่ (Digester) พร้อมกับ สารละลายเคมีพิเศษ ที่เรียกว่า "เหล้าขาว" (White Liquor)
เหล้าขาวประกอบด้วยสารหลักคือ โซเดียมไฮดรอกไซด์ (NaOH) และ โซเดียมซัลไฟด์ (Na2S)
การต้มภายใต้ ความดันและอุณหภูมิสูง จะทำให้สารเคมีทำปฏิกิริยากับ ลิกนิน ซึ่งเป็นสารที่ทำให้ไม้แข็งและมีสี ทำให้ลิกนินละลายออกไป เหลือเพียงเส้นใยเซลลูโลสที่บริสุทธิ์
การแยกและล้างเยื่อกระดาษ:
เมื่อได้เยื่อกระดาษแล้ว เยื่อจะถูกแยกออกจาก "เหล้าดำ" (Black Liquor) ซึ่งเป็นสารละลายที่เหลือจากการต้ม และนำไปผ่านกระบวนการ ล้างทำความสะอาด หลายขั้นตอน เพื่อกำจัดสารเคมีและลิกนินที่ตกค้างออกให้มากที่สุด
โดยธรรมชาติ เยื่อคราฟท์ที่ได้จะมี สีน้ำตาล อันเป็นสีธรรมชาติของไม้และลิกนินที่ยังคงหลงเหลืออยู่บางส่วน
การอบแห้งและการขึ้นรูปแผ่นกระดาษ:
เยื่อกระดาษที่ล้างสะอาดแล้วจะถูกนำไปรีดผ่านลูกกลิ้งขนาดใหญ่ เพื่อบีบเอาน้ำออกและทำให้เยื่อรวมตัวกันเป็นแผ่นบางๆ
จากนั้น แผ่นเยื่อกระดาษจะถูกส่งเข้าสู่เครื่องอบแห้งขนาดใหญ่ เพื่อกำจัดความชื้นออกทั้งหมด จนได้เป็น แผ่นกระดาษคราฟท์ ที่มีคุณสมบัติแข็งแรงและเหนียว
กระบวนการคราฟท์นี้ไม่เพียงแต่ให้กระดาษที่มีความแข็งแรงเป็นเลิศเท่านั้น แต่ยังเป็น กระบวนการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มากกว่าวิธีการผลิตเยื่อกระดาษแบบอื่นๆ ในสมัยนั้น เนื่องจากสามารถนำสารเคมีและพลังงานจาก "เหล้าดำ" กลับมาใช้ซ้ำได้ ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้ กระดาษคราฟท์ ได้รับความนิยมและพัฒนาต่อยอดมาจนถึงปัจจุบัน กลายเป็นวัสดุสำคัญในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์และการพิมพ์ทั่วโลก
หน้าที่เข้าชม | 21,187 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 14,235 ครั้ง |
เปิดร้าน | 4 ก.พ. 2564 |
ร้านค้าอัพเดท | 5 ก.ย. 2568 |